4 พฤติกรรมการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไปในยุค "New Normal"

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าของกลุ่มคนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก หลังจากที่ไม่สามารถไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ยิม ฟิตเนส หรือสตูดิโอออกกำลังกายต่าง ๆ ได้ตามปกติ เพราะการระบาดของ Covid-19 ทำให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ที่เรียกว่า “New Normal”

ซึ่งทุกคนหรือทุกสาขาอาชีพนั้นจะต้องปรับตัวให้ไวที่สุดเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด อย่างที่เราเห็นกันว่าหลาย ๆ คนใช้ชีวิตยากลำบากมากขึ้น แถมคนก็ตกงานกันมากขึ้น และแน่นอนว่าผู้ประกอบการฟิตเนส หรือผู้ที่ออกกำลังกายก็จะต้องหาวิธีที่สร้างสรรค์เพื่อที่จะสามารถออกกำลังกายได้อย่างปกติ

รวมถึงการสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ เพราะไม่มีเทรนเนอร์มาคอยผลักดัน หรือสังคมในฟิตเนสมากระตุ้นให้เราฟิตขึ้น จนเกิดเป็นพฤติกรรมใหม่ที่น่าจับตามอง และมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นเทรนด์การออกกำลังกายในโลกอนาคตหลังยุค Covid-19 อีกด้วย


มาดู 4 พฤติกรรมการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไปหลังจากได้รับผลกระทบจาก Covid-19

จากเหตุการณ์นี้ทำให้หลาย ๆ คนหรือแม้กระทั่งตัวเราเองนั้น ได้ตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อตัวเองกันมากขึ้น ทั้งการสั่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery) การศึกษาทางไกล (Learn from Home) การทำงานที่บ้าน (Work from Home) การชำระเงินด้วย (Mobile Banking) รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขอนามัยก็ล้วนแต่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยกันทั้งนั้น

และนี่คือพฤติกรรมของเหล่าคนรักสุขภาพที่เกิดขึ้นในช่วง Covid-19 ครับ

  1. หันมาพึ่งพา Application ในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น 
ภาพจาก GQ Thailand


แม้ว่าการออกกำลังกายที่ใช้แอปพลิเคชัน จะไม่ใช่เรื่องที่ใหม่และน่าตื่นเต้น แต่สถานการณ์เช่นทุกวันนี้ ทำให้คนหันมาใช้แอปฯแทนการเข้าฟิตเนสมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากเทียบสถิติการโหลดแอปฯแล้ว นอกจากจะมีตัวช่วยในเรื่องของการทำงาน ช็อปออนไลน์ ก็มีแอปพลิเคชันออกกำลังกายนี่แหละครับที่มาแรงไม่แพ้กัน

ด้วยแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาให้คล้ายกับการเล่นเกม สร้างความบันเทิง ทำให้การวิ่งบนลู่หรือปั่นจักรยานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป หรือแม้แต่การออกกำลังกายชนิดอื่นก็สามารถ Track เวลาและวัดค่าต่าง ๆ ของร่างกายได้เช่นกัน รวมไปถึงการออกกำลังกายในโลกเสมือน หรือที่เรียกว่า Virtual ทำให้ผู้ที่ออกกำลังกายรู้สึกเหมือนได้ออกกำลังกายร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แอปฯ เหล่านี้จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาแบบนี้


  1. ออกกำลังกายที่บ้านด้วยตัวเองหรือสร้าง Home Gym
What Is The Best Compact Home Gym - Michael Weiss
ภาพจาก Micheal Weiss


ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนทั้งพื้นที่ในบ้าน และงบประมาณที่ต่างกัน ดังนั้นคุณควรจะต้องรู้สิ่งสำคัญเหล่านี้ก่อนจะเลือกซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่คุ้มค่าและประหยัดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพื่อให้ได้ใช้อุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ 

บางคนอาจจะให้ความสำคัญไปกับการออกกำลังกายแบบ Bodyweight หรือใช้น้ำหนักตัวของตนเองเป็นแรงต้าน มากกว่าที่จะใช้ตัวช่วยอื่น ๆ อย่างดัมเบล บาร์เบล เคตเทิลเบล หรือเครื่องขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย เพราะท่าอย่างวิดพื้น การแพลงก์ บอดี้เวต สควอต ดึงข้อ ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกที่เช่นกัน


  1. ใช้ Online Workout แทนการไปฟิตเนส
ภาพจาก Newmove Bnagkok


การออกกำลังกายคนเดียวที่บ้านอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อเกินไปที่จะลุกขึ้นมาทำ Live Streaming และ On-Demand Workout ในต่างประเทศนั้นจึงได้รับความนิยมผ่านการไลฟ์ในช่องทางเพจ Instagram หรือ YouTube โดยเทรนเนอร์ ที่ได้ออกแบบโปรแกรมให้คนทำตาม พร้อมสาธิตท่าออกกำลังกายแบบสด ๆ เน้นให้ทำตามได้ง่าย อาศัยอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ขวดน้ำ แพ็กน้ำดื่ม ฯลฯ 

ส่วนในไทยบ้านเรานั้นอาจจะเริ่มเห็นสตูดิโอออกกำลังกายต่าง ๆ ปล่อยไลฟ์ออกมาเรื่อย ๆ ผ่านเพจ Facebook หรือ Youtube แล้วเช่นกัน ที่โดยปกติแล้วการเข้าคลาสเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายราว 600-990 บาทต่อครั้ง แต่ตอนนี้เปิดให้ดูไลฟ์กันแบบฟรี ๆ เว้นเสียแต่ว่าบางคนต้องการ Exclusive Class ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นหรือจ่ายเป็นรายเดือนกับทางฟิตเนส และใช้ Personal Training นั่นเอง


  1. ยอมลงทุนกับ Gadget ไฮเทคต่าง ๆ 
Can online exercising at home beat the chore of going to the gym? |  Financial Times
ภาพจาก Finalcial Times


อุปกรณ์ไฮเทคประเภท Fit-Tech นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสหรัฐอเมริกา เช่น MIRROR กระจกออกกำลังกายอัจฉริยะตามภาพด้านบน ที่ผสมระหว่างการเป็นกระจกและสมาร์ททีวี ซึ่งผู้ใช้งานสามารถส่องกระจกได้ปกติหากปิดระบบไว้เฉยๆ แต่ถ้าเปิดใช้งานแล้ว กระจกเงาที่เห็นก็คือจอ LCD แนวตั้ง ที่มาพร้อมลำโพงสเตอริโอ ซึ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าจอ (หรือหน้ากระจก) จะสามารถควบคุมและตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ

แต่เมื่อเทียบกับบ้านเรานั้นอุปกรณ์ประเภทนี้อาจจะดูราคาสูงจนเกินไป บ้านเราจึงเน้นใช้ นาฬิกา Smart Watch, หูฟังไร้สาย หรืออุปกรณ์ตัวช่วยอื่น ๆ ที่เป็นการวัดค่า และสร้างโปรแกรมการออกกำลังกาย มากกว่านั้นบางคนยังใช้เกมอย่าง Play Station 4, Nintendo Switch, XBOX มาเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายได้เช่นกัน เพราะเป็นเกมที่ใช้ร่างกายเคลื่อนไหวจริงในการควบคุม


เปิดสถิติเครื่องออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

โดยปกติช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแสการรักสุขภาพก็ยิ่งมาแรงอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอกับยุค New Normal ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ก็ยิ่งทำให้ทุกคนอยากมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ 

และเนื่องด้วยกีฬาที่ฮิตที่สุดในปัจจุบันอย่าง “การวิ่ง” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงการ "ก้าวคนละก้าว" เป็นการรับบริจาคให้กับโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย หรือแรงได้บันดาลใจจากผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่หายได้จากการวิ่ง และยังมีแรงบันดาลใจอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้หลายคนหันมาออกกำลังกายตามพวกเขาครับ

ซึ่งเราจะขอยกตัวอย่างเครื่องออกกำลังกายที่เป็นที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน 3 ชนิด ดังนี้

  1. ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill)


จากกระแสกีฬาที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ ลู่วิ่งไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยมต่อผู้ที่ออกกำลังกายมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นเครื่องออกกำลังกายชนิด Cardio ทำให้เผลาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดีช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย พร้อมฟังก์ชันที่ติดมากับลู่วิ่งทั้ง วัดอัตราชีพจร, การเผลาผลาญ, โปรแกรมการวิ่ง, ลำโพงในตัว ทำให้เพลิดเพลินต่อการออกกำลังกาย

เหมาะกับทุกเพศทุกวัยมีทั้งเครื่องเล็กที่ (เหมาะกับเด็ก) เครื่องที่มีราวจับ และสาย Safety ป้องกันเหตุฉุกเฉิน (เหมาะกับผู้สูงวัย) แต่ขอแนะนำว่าควรเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่มี Service หลังการขายที่ดี เช่น ส่งฟรีพร้อมทีมติดตั้งถึงบ้าน, ประกันมอเตอร์, ประกันการเปลี่ยนวัสดุ เพื่อความคุ้มค่าต่อการใช้งาน

โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่คุ้มค่าเรื่องการดูแลแบบนี้ได้ที่ >> Shopee , Lazada


  1. เครื่องเดินวงรี (Elliptical)
NordicTrack SpaceSaver SE7i Elliptical | NordicTrack
ภาพจาก Dezhou


อุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกเรียกว่าเป็นเครื่องบริหารร่างกายคล้าย ๆ กันกับการวิ่ง เพราะเป็นเครื่องออกกำลังกายชนิด Cardio เหมือนกัน แต่จะช่วยเผลาผลาญน้อยกว่า และอันตรายน้อยกว่า เนื่องจากวิธีการเล่นเป็นการยืนบนแท่น สามารถคอนโทรลความเร็วได้ตามความเหมาะสมของร่างกาย 

ทำให้ผู้เล่นกระชับสัดส่วนตั้งแต่แขน หน้าอก หน้าท้อง ขา เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายให้ดูดีขึ้นได้ จึงเป็นตัวเลือกที่คนนิยมจะซื้อไว้ในบ้านรองลงมาจากลู่วิ่ง


  1. จักรยานสปินไบท์ (SpinBike) 
No photo description available.


อีกหนึ่งเครื่องออกกำลังกายชนิด Cardio ที่เปรียบเสมือนกับการปั่นจักรยานจริง ๆ เพราะได้รับความเข้มข้นที่เหมือนกัน โดยสามารถปรับความหนืดได้ตามความต้องการ เป็นอีกหนึ่งคาร์ดิโอที่ช่วยเผลาผลาญไขมันที่ดี ได้ความแข็งแรงตั้งแต่ช่วงลำตัวลงไปถึงช่วงขา 

หรือบางคนอาจจะเลือกเครื่องออกกำลังกายปั่นจักรยานที่มีแบบที่พิงหลัง เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น แต่อุปกรณ์ชนิดการปั่นนี้จะเน้นการใช้ช่วงล่างเป็นหลัก และไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทั้งตัว จึงอาจทำให้ไม่ได้รับความเข้มข้นในการเผาผลาญแคลอรีที่มากพอ


สรุปทั้งหมด 

จากสถิติการออกกำลังกายในช่วง Covid-19 นั้น ผู้คนมักจะเลือกการออกกำลังกายที่เริ่มต้นได้ง่าย ๆ เพื่อให้สะดวกต่อวิถีชีวิต New Normal เครื่องออกกำลังกายชนิด Cardio จึงถูกเลือกนำไปใช้ในบ้านมากที่สุด เพราะเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวที่ให้คุณประโยชน์ครบเครื่อง เหมาะในการประหยัดพื้นที่จัดเก็บภายในบ้าน 

นอกจากนี้บางคนอาจจะเพิ่มการเล่นเวทด้วยการใช้ ดัมเบล บาร์เบล เข้ามาเสริมในการออกกำลังกายเพราะเป็นกลุ่มอุปกรณ์ที่ใช้พื้นที่อย่างประหยัดเช่นเดียวกัน และสามารถหยิบจับได้อย่างสะดวกสบายภายในบ้านนั่นเอง

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!